
บราซิล ประเทศที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม การเต้นรำสุดอลังการ และฟุตบอลที่เล่นอย่างร้อนแรง แต่ในอดีต บราซิลเคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสมาเป็นเวลานานกว่า 300 ปี ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นประเทศเอกราช
ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1889 ซึ่งเป็นวันสถาปนา “สาธารณรัฐบราซิล” และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันยาวนาน ที่นำไปสู่ประชาธิปไตยในประเทศนี้
เหตุการณ์สำคัญ: การล้มล้างระบอบจักรวรรดิบราซิล
หลังจากได้รับเอกราชจากโปรตุเกสเมื่อ ค.ศ. 1822 บราซิลก็ยังคงดำรงอยู่ในรูปของ “จักรวรรดิบราซิล” ภายใต้การปกครองของพระจักรพรรดิเปโดรที่ 1 และต่อมา พระจักรพรรดิเปโดรที่ 2
อย่างไรก็ตาม ระบอบจักรวรรดิเริ่มเผชิญกับความไม่พอใจจากประชาชน ในช่วงทศวรรษ 1880 สาเหตุหลักๆ มาจาก:
สาเหตุความไม่พอใจ | รายละเอียด |
---|---|
การขาดสิทธิทางการเมือง | ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิในการเลือกตั้ง และไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจทางการเมือง |
ความล้าสมัยของระบบเศรษฐกิจ | ระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาการเกษตรและการส่งออกวัตถุดิบ ทำให้ประเทศค่อนข้างช้าในการพัฒนาอุตสาหกรรม |
การทุจริตและความเหลื่อมล้ำ | ขุนนางและชนชั้นสูงในสังคมถือครองที่ดินและทรัพยากรเป็นจำนวนมาก ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงตกอยู่ในความยากจน |
กุสตาโว้ เดอ โซมบา (Gustavo de Sousa) อดีตพลเอกและนายทหารผู้มีชื่อเสียง เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญ ที่นำไปสู่การล้มล้างระบอบจักรวรรดิ
De Sousa และกลุ่มขุนพลทหาร ได้ร่วมมือกันเพื่อโค่นล้มพระจักรพรรดิเปโดรที่ 2 และสถาปนาสาธารณรัฐขึ้นมาแทน
เหตุการณ์นี้เป็น “การปฏิวัติไร้เลือด” เนื่องจากไม่มีการสู้รบอย่างรุนแรง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด
ผลกระทบของการก่อตั้งสาธารณรัฐ:
- การสิ้นสุดระบอบจักรวรรดิ: บราซิลได้ยุติการปกครองแบบราชาธิปไตย และก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของสาธารณรัฐ
- การปฏิรูปทางการเมือง: ได้มีการจัดตั้งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้ง
- การพัฒนาเศรษฐกิจ: สาธารณรัฐบราซิลได้มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรม และส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
De Sousa ถือเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์บราซิล
แม้ว่าระบอบสาธารณรัฐในช่วงแรกจะยังคงเผชิญกับความท้าทายและปัญหาต่างๆ แต่การก่อตั้งสาธารณรัฐถือเป็นก้าวสำคัญ ที่นำไปสู่การพัฒนาและความเจริญของประเทศในปัจจุบัน
การศึกษาประวัติศาสตร์บราซิล ช่วยให้เราเข้าใจถึงรากฐานของสังคมและการเมืองในประเทศนี้ และเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นมักจะมาพร้อมกับความพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจากผู้คนที่ต้องการสร้างอนาคตที่ดีกว่า