
ประวัติศาสตร์โลกเต็มไปด้วยเรื่องราวของผู้กล้าหาญที่ลุกขึ้นมาท้านทานอำนาจของผู้นำ colonial เพื่อต่อสู้เพื่อเอกราชและความเป็นธรรมของตนเอง หนึ่งในบุคคลเหล่านี้คือ มาร์เซียโล เอดิซา (Marcelino H. Pilapil),
นักรบผู้กล้าหาญจากฟิลิปปินส์ที่เป็นผู้นำการปฏิวัติเอดิซา ในปี ค.ศ. 1896 ซึ่งเป็นขบวนการต่อต้านการปกครองของสเปน
มาร์เซียโล เอดิซา เกิดในครอบครัวชาวฟิลิปปินส์ที่ยากจนและได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างเข้มงวดในจังหวัด northeastern ฟิลิปปินส์ ตั้งแต่เด็กเขาก็มีความรักชาติและความปรารถนาที่จะเห็นประเทศของตนเองเป็นอิสระจากการครอบงำของต่างชาติ
เมื่ออายุได้ 20 ปี เขาได้เข้าร่วมกับกลุ่ม Katipunan ซึ่งเป็นขบวนการลับที่ต่อต้านการปกครองของสเปน ในฐานะผู้ฝึกหัด มาร์เซลิโอได้แสดงความกล้าหาญและทักษะการรบ
ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากผู้นำ Katipunan และได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าหน่วยทหาร
ในเดือน สิงหาคม ค.ศ. 1896 มาร์เซลิโอ ได้รับคำสั่งให้ déclencher การปฏิวัติโดยการโจมตีฐานทัพของสเปน ในเมือง San Miguel de Mayumo ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองกำลังสเปน
การโจมตีครั้งนี้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติเอดิซา
เหตุการณ์สำคัญของการปฏิวัติเอดิซา
วันที่ | เหตุการณ์ |
---|---|
23 สิงหาคม ค.ศ. 1896 | การโจมตีฐานทัพ San Miguel de Mayumo |
25 สิงหาคม ค.ศ. 1896 | การยุทธการที่ Pugad Lawin |
มาร์เซลิโอ เอดิซา:
ผู้นำผู้เกรียงไกรในช่วงสงคราม
มาร์เซลิโอ เอดิซา เป็นที่รู้จักกันในเรื่องความกล้าหาญ ทักษะการรบ และความภักดีต่อประเทศชาติ
เขาเป็นผู้นำที่สามารถดึงดูดใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ติดตาม
แม้จะไม่ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการ แต่เขาก็มีความฉลาดหลักแหลมและสามารถวางแผนกลยุทธ์การรบได้อย่างชาญฉลาด
มาร์เซลิโอ เอดิซา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1903
ในช่วงสงครามฟิลิปปิน-อเมริกา
แม้ว่าการปฏิวัติเอดิซา จะไม่ประสบความสำเร็จในการปลดปล่อยฟิลิปปินส์จากการปกครองของสเปน
แต่ก็ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ฟิลิปปินส์
เพราะมันได้จุดประกายไฟแห่งความหวังและความปรารถนา
ที่จะเห็นฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่อิสระและมีอธิปไตย
มรดกของมาร์เซลิโอ เอดิซา:
การปฏิวัติเอดิซา สอนให้ประชาชนชาวฟิลิปปินส์
รู้จักความสามัคคีและความ團結 มันแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความเสียสละของผู้ที่ยอมสู้เพื่อประเทศชาติของตนเอง
มาร์เซลิโอ เอดิซา และการปฏิวัติเอดิซา จะไม่มีวันถูกลืม
เพราะพวกเขาได้เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ประชาชนชาวฟิลิปปินส์ ในการต่อสู้เพื่อความอิสระและความเป็นธรรม
ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา